*** “มั่นใจตนเองในทางธรรมก็มักจบเห่” ***
กินข้าวเสร็จก็พอมีเวลา ที่จะคุยอธิบายเพิ่มเติม
มีพระหลายท่าน ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เข้าใจธรรม ซึ้งในรสความเป็นธรรม
ต่างเข้าใจว่า แม้ตัวเขาเอง ระมัดระวังใจ ไม่ให้กระทำชั่ว มีสติสัมปชัญญะ เดินอยู่บนหนทางแห่งมรรค
หากแม้ไม่อยู่ในเพศบรรพชิตนี้ ท่านก็น่าจะอยู่อย่างผู้รู้ได้
อยู่อย่างใจเป็นพระที่ไม่ต้องนุ่งเหลืองห่มฝาดแบบนี้ก็ได้
ว่าแล้วท่านก็สึกออกไป พร้อมด้วยใจที่ท่านตั้งมั่นว่า ขึ้นชื่อว่าชั่ว เขาจะไม่ทำ
เขาจะอยู่อย่างที่เคยเป็นอยู่ คืออยู่อย่างพระที่ไม่จำเป็นต้องบวช และอาศัยศีลสิกขา
ปรากฏว่า ครึ่งปีแรกนั้น ก็ยังพอโอเคอยู่ แต่พอผ่านไปครึ่งปีหลัง
มีเพื่อนมากขึ้น ติดต่อผู้คนมากขึ้น ต้องทำนั่น ต้องทำนี่
บางอย่างก็จำเป็นต้องทำ ตามที่โลกเขาว่า
ในใจก็โน้มมาเข้าข้างตัวเองว่า เราไม่ได้เป็นพระแล้วนะ ปล่อยๆไปมั่ง
เราไม่ได้นุ่งเหลืองห่มฝาดแล้วนะ ไม่ต้องตึงหรือฝืนนักก็ได้
นี่..ภพมันก่อเกิดขึ้นมาท่วมใจทีละน้อยๆ
เดี๋ยวนี้ โดนโลกกลืนไปเป็นสหายเรียบร้อยแล้ว
มีแต่ชื่อ ที่ใครๆต่างก็เรียกอดีตที่น่าภาคภูมิใจว่า ” มหา ”
ที่จริงสิ่งที่ท่านมหาไม่รู้ก็คือ ท่านมหาแพ้ตั้งแต่วันที่ท่านสึกแล้ว
สำหรับคนแพ้ ที่ไม่รู้ตัวว่าแพ้ ก็มักเข้าใจว่า ตนเองนี้มีความตั้งมั่น
อะไรใดๆในโลกก็ไม่สามารถแทรกเข้ามาทำลายใจตนได้
ชุดที่สวมใส่นี้สำคัญ
แม้มันไม่ใช่ตัวชี้วัดมรรคผลของใคร
แต่มันเป็นคอกล้อมกั้นใจเจ้าของ ไม่ให้ตามใจตนเองได้อย่างง่ายดายนัก
เราจึงมีคอกกั้นใจด้วยอะไรก็ได้ ที่จะใช้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ
แต่ไม่ใช่ เอาชุดเอาสีที่สมมุตินี้ มาเป็นตัวการันตี ว่าตนมีความดี
สมควรแก่การนอบน้อมบูชา เพราะเหตุแห่งการใส่สีเสื้อที่เชิดชูตน
คำถาม >>> กราบสาธุธรรม. กราบนมัสการท่านพระคุณเจ้าพระอาจารย์ ครับ
*มีเพื่อนถามมาเมื่อวานซืน.
ทำไงเขาเลิกเหล้ามาก็หลายครั้ง
ทำไมถึงเลิกไม่ได้สักที
เราไม่กิน เพื่อนก็มายัดเยียดให้ สุดท้ายก็ต้องรับมากิน เลยหยุดๆ เลิกๆ กินๆ อยู่อย่างนี้
อยากจะเลิกกินทำไมเลิกกินไม่ได้
**ของแบบนี้มันอยู่ที่ใจนาย หากใจนายไม่มีคอกกั้น หากใจนายไม่มีสัจจะ หากใจนายไม่มีอธิษฐาน ใจนายย่อมไม่มีความมั่นคง
ใจนายย่อมมีแต่ความพ่ายแพ้ ผลย่อมออกมาเป็นเช่นที่เป็นอยู่
แต่เรามีสัจจะ มั่นคง เราจึงเลิกมาได้ 3 ปีแล้ว
พระอาจารย์ตอบ <<< คน ที่มีสัจจะและใจตั้งมั่นที่จะข่มใจเท่านั้น จึงจะไม่หวนกลับไปดื่มไปกินได้
เรื่องเหล้าเรื่องบุหรี่ มันเป็นความอยาก มันเป็นตัณหาที่เกิดจากใจ
ฉะนั้น มันไม่มียาอะไรมารักษาได้ สิ่งที่จะรักษาได้คือจิตสำนึก และสัจจะวาจาที่ลั่นไว้ว่าจะไม่หวลกลับไปเสพ
แต่..ไม่ได้ผลกับใจที่อ่อนแอและพ่ายแพ้ ฉะนั้นปล่อยมันไปเหอะ
คำถาม >>> กราบเรียน ถาม พระ อาจารย์ ครับ
คนตายในช่วงเบญจเพส นี่
มันเป็นปฏิทิน หรือเป็นตัวเลขที่ถูกตั้งเอาไว้ สำหรับคนๆนั้น หรือมันเป็นอาถรรพ์ หรือมันเป็นซึ่งความบังเอิญ ครับ
พระอาจารย์ตอบ <<< คนมันตั้งสมมุติขึ้นมาน่ะ ไม่เกี่ยวกับความเป็นเบญจเพสอะไรอย่างเขาว่า
คนจะตายก็คือตาย มันมีวิบากของมัน
แต่การที่เราอยู่มาถึงวัยเบญจเพศ ท่านก็แค่เตือนให้เราระวังชีวิตไว้ ที่อยู่มาถึงวัยนี้ ว่าอย่าประมาท
คำถาม >>> กราบสาธุ ขอรับ พระอาจารย์ ไปบางวัดเค้าไม่ให้เข้าไปปฏิบัติด้วยละขอรับ
ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไม มันจะไปเกี่ยวอะไรกับเปลือกละขอรับ บางคนนุ่งขาวห่มขาว
แต่ไปนั่งนินทา กล่าวร้าย คนนู้น คนนี้ ละขอรับพระอาจารย์
พระอาจารย์ตอบ <<< บางที่เขามีระเบียบ เราไปในที่เขาเราก็ต้องว่าไปตามระเบียบของเขาด้วยน่ะ
ถ้าเราไม่ใส่ชุดที่เขากำหนด เป็นเรานั่นแหละ ที่มากเรื่องในระเบียบของเขาเอง
ส่วนผู้ใส่ชุดขาว มันไม่ได้ห้ามปากไม่ให้นินทาได้หรอก
สิ่งที่ออกมาจากปาก มันเป็นสันดาน ไม่ใช่ชุดขาวที่ตนเองใส่
เราเป็นฆราวาส เราก็ปฏิบัติเท่าที่กำลังเราพอมีเถิด ไม่ต้องไปเคร่งอย่างพระอย่างเจ้าเขา ที่เขาเคร่ง
เดี๋ยวพอเจอพระที่ไม่เคร่งเท่าเรา เราก็จะไปปรามาสท่านว่าบวชมาเสียข้าวสุกอีก
เพราะสู้เราที่เป็นฆราวาสยังไม่ได้
เรื่องนี้ มันเป็นเรื่องจิตสำนึกและความละอายใจน่ะ ทำเท่าที่เรามีกำลังของเราก็พอ
ถ้าเรามั่นใจในกำลังของเรา ก็ไม่ต้องอาศัยชุด
แต่ถ้าไม่มั่นใจ ชุดที่สวมใส่ มันจะเป็นคอกกั้นในเราเกิดความละอายใจขึ้นมาได้น่ะ
พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 18 เมษายน 2561
โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง
ณ พุทธอุทยานบุญญพลัง จ.กาญจนบุรี